วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2557

'ไข้หวัด 2009' คร่าชีวิตชาวอุดรฯ แล้ว 2 ราย

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 8 เม.ย. 2557

สสจ.อุดรธานีเผย 'ไข้หวัด 2009' คร่าชีวิตชาวอุดรฯ แล้ว 2 ราย เป็นผู้หญิงสูงอายุ และวัยกลางคน แพทย์ระบุในพื้นที่มีผู้ป่วยรวมแล้ว 13 ราย...
เมื่อวันที่ 8 เม.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ถึงกระแสข่าว มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นกระจายทั้ง จ.อุดรธานี โดยผู้ป่วยอาการหนักจะถูกส่งตัวเข้ามารับการรักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี และมีผู้ป่วยเสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย โดยรายแรกเป็นหญิงสูงอายุจาก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี รายที่ 2 เป็นหญิงวัยกลางคนจาก อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ทำให้ฝ่ายสอบสวนโรคต้องลงพื้นที่ ติดตามผู้สัมผัสมาทำการเฝ้าระวัง
ด้านนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า รับรายงานเบื้องต้นจากนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี ว่า มีผู้ป่วยและเสียชีวิตด้วยไข้หวัด 2 ราย เป็นไข้หวัดเกิดขึ้นตามฤดูกาล เชื้อระบาดจากคนสู่คน ไม่ใช่ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ หรือไข้หวัดนก ที่กำลังมีการระบาดอยู่ทั่วประเทศ เสียชีวิตเนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยง และมีอาการป่วยต่อเนื่องนาน จึงสั่งการให้เร่งทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่ให้ตื่นตระหนกกับข่าวลือ พร้อมกันนี้ให้ประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกัน และการดูแลเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนทันที
ขณะที่นายแพทย์สมิต ประสันนาการ นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายจังหวัดมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่เกิดจากเชื้อ H1N1 และก็มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว ในส่วน จ.อุดรธานี ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 13 ราย ซึ่งกระจายไปตามอำเภอต่างๆ เสียชีวิต 2 ราย นอนพักรักษาตัวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี 1 ราย อาการดีขึ้นจนใกล้หายแล้ว ซึ่งในวันที่ 10 เม.ย.57 ได้เรียกประชุมคณะแพทย์ พยาบาล บุคลากรการแพทย์จากทุกอำเภอ เพื่อกำหนดแนวทางป้องกัน และรักษาให้ชัดเจน
นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี ยังกล่าวอีกว่า แพทย์มียาฆ่าเชื้อไว้รัสตัวนี้อยู่ แต่จะได้ผลต้องภายใน 48 ชั่วโมง เมื่ออาการผู้ป่วยไม่ค่อยรุนแรง การวินิจฉัยก็เป็นไปได้ยาก ในสถานการณ์เช่นนี้แพทย์ต้องสงสัยไว้ก่อน จะต้องป้ายเชื้อที่คอมาตรวจทันที นอกจากนี้ต้องส่งทีมสอบสวนลงพื้นที่ทันที โดยที่ผ่านมาผู้ป่วยทั้ง 13 ราย ที่เข้ารับการรักษา ทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ คัดกรองผู้สัมผัสโรคทันทีเหมือนกัน ไม่พบผู้ติดเชื้อจากผู้ป่วยเลย จึงแจ้งไปยังประชาชน เฝ้าระวังสุขภาพอย่างเคร่งครัด และหากป่วยช่วงนี้ควรปรึกษาแพทย์.

งานวันผู้สูงอายุร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเหล่า





เกาะติดไวรัส "ไข้หวัดใหญ่" H1N1 สายพันธุ์เก่า....ระบาดครั้งใหม่

23,899 ราย!

คือ ตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในรอบ 75 วัน ของปีนี้ ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 24 ราย!

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงเตือนประชาชนให้ระวังการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ที่ในปีนี้สถานการณ์อยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง หลังยอดผู้ป่วยพุ่งสูงกว่า 20,000 รายในรอบกว่า 2 เดือนของปี 2557

นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค บอกว่า ตัวเลขผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ในปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะตัวเลขผู้เสียชีวิตถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา

ส่วนที่มีการเข้าใจผิดคิดว่า เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หรือ สายพันธุ์ที่ดุกว่าเดิมนั้น อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่ที่เป็น สาเหตุของการป่วยในปีนี้ ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ ยังคงเป็นสายพันธุ์เดิมที่เคยระบาดตามฤดูกาลก่อนหน้านี้ คือ สายพันธุ์ A H1 N1

“จากการตรวจวิเคราะห์ของกรมวิทยา- ศาสตร์การแพทย์ พบว่าผู้ป่วยถึง 44% ป่วยจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A H1N1 อีก 38% เป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B และ 18% เป็นเชื้อสายพันธุ์ A H3N2” นพ.โสภณ บอกพร้อมกับย้ำว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบทั้งการกลายพันธุ์และการดื้อยาของเชื้อไข้หวัดใหญ่ทั้ง 3 สายพันธุ์ที่ว่านี้

อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมควบคุมโรค  บอกว่า แม้จะไม่มีการกลายพันธุ์หรือดื้อยา แต่ผลการศึกษาจากสหรัฐฯและยุโรปพบว่าเชื้อชนิดนี้มีความรุนแรงสูงกว่าสายพันธุ์เก่าอื่นๆ โดยมีอัตราป่วยตายและอัตราเข้ารับการรักษาใน รพ. สูงกว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อื่น

จริงๆแล้ว สัญญาณเตือนการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในปีนี้ เริ่มส่อเค้ามาตั้งแต่ช่วงต้นปี เมื่อศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐฯหรือ ซีดีซี ออกมาแสดงความกังวลต่อจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสถาน-การณ์การแพร่ระบาดของโรคอยู่ในขั้นรุนแรง

โดยส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H3N2 ต่างจาก เอเชียตะวันออก  แอฟริกาเหนือ และเอเชียตะวันตก ที่พบว่า สายพันธุ์ไข้หวัด ใหญ่ที่ตรวจพบมากที่ สุดเป็นสายพันธุ์ H1 N1

นพ.โสภณ  ยังบอกด้วยว่า เด็กและเยาวชนยังคงเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่พบได้มากที่สุดในการระบาดของโรค และ 5 จังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงสุด คือ ลำปาง ระยอง เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และพะเยา

ทั้งนี้ โรคไข้หวัด ใหญ่ สามารถติดต่อกันได้ง่าย เชื้อส่วนใหญ่จะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ติดต่อกันได้โดยการสัมผัส หรือการไอ จามและการปนเปื้อนของเชื้อในภาชนะ ของใช้ส่วนตัวหรือของใช้สาธารณะ เช่น ลูกบิด ปุ่มกดลิฟต์ ราวบันได ราวรถโดยสาร โดยอาจติดต่อเข้าสู่ร่างกายผ่านทางมือที่เปื้อนเชื้อเมื่อแคะจมูก ขยี้ตา เอานิ้วเข้าปาก

การป้องกันทำได้โดยหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในที่แออัด ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือ เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวและสิ่งของที่มีคนสัมผัสบ่อยๆ ด้วยน้ำผงซักฟอกหรือน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป

ส่วนผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่แล้ว ควรคาดหน้ากากป้องกันตลอดเวลาหรือใช้ผ้าเช็ดหน้า ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม งดการเดินทาง หยุดเรียน หยุดงาน จนกว่าจะหายเป็นปกติ 

อาการของโรคที่สังเกตได้ คือ มีไข้สูง เกิน 2 วัน หรือไอมาก เจ็บหน้าอก หายใจเร็ว เหนื่อย อ่อนเพลีย รับประทานอาหารไม่ได้ อาเจียน หรือถ่ายอุจจาระมาก ซึ่งถ้ามีไข้สูงเกิน 2 วันแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะส่วนใหญ่แล้วอาการของโรคจะค่อยๆดีขึ้นเองเมื่อครบวงจรการติดเชื้อของไวรัส

ส่วนการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคนั้น ควรฉีดล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ระบุว่า วัคซีนสามารถป้องกัน รวมถึงบรรเทาอาการป่วยได้เพียง 62% เท่านั้น และผู้ที่ป่วยแล้วอาจกลับมาป่วยได้อีก หากเป็นการติดเชื้อคนละสายพันธุ์.
โหวตข่าวนี้

    ค้นหาบล็อกนี้